วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

cristiano ronaldo

ในวงการฟุตบอลคงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักชายคนนี้ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เพราะเขาคนนี้มีฝีเท้าที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ ด้วยรางวัลมากมายที่ได้รับถือเป็นเครื่องหมายการยืนยันได้เป็นอย่างดี เขาคนนี้มีชื่อว่า “Cristiano Ronaldo”
คริสเตียโน โรนัลโด เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ที่เกาะมาเดรา ประเทศโปรตุเกส เขาเป็นลูกชายคนเล็กที่มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน ซึ่งที่มาของชื่อ Cristiano Ronaldo มาจากบิดาของเขาเป็นคนตั้งให้ โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Ronald Wilson Reagan ที่พ่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นั้นชื่นชอบมากตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นนักแสดงเลยก็ว่าได้
ครอบครัวของ Ronaldo ตั้งอยู่ในย่านกิงตาดูฟัลเชา เขตอังดูอังตอนีอูของเมืองฟุงชาล เป็นเขตที่มีคนยากจนส่วนใหญ่อาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก โรนัลโด้ ได้เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็กๆ เมื่อตอนที่เขาอายุถึง 6 ขวบ เขาก็เริ่มเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในทีมชุดใหญ่ของ อังดูริญญา  (Andorinha) จากการชักชวนของญาติที่อยู่ในทีมนี้
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ลงเล่นฟุตบอลในนามของเยาวชนอังดูริญญา  (Andorinha) อยู่ 2 ปี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับทีม นาซีอูนัล ในปี ค.ศ. 1977 และได้ทำสัญญากับสโมสรยักษ์ใหญ่ สปอร์ติงลิสบอน แต่ทว่า โรนัลโด้ ได้ถูกพิจรณาให้ย้ายไปอยู่กับทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยคนที่ซื้อตัวของเขามาก็คือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในราคา 12.24 ล้านปอนด์ และทำให้ โรนัลโด้ได้แชมป์เอฟเอคัพ เป็นรางวัลแรกอันทรงเกียรติของเขามากๆ ในปี 2003

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Grand theft auto

แกรนด์เธฟต์ออโต (อังกฤษGrand Theft Auto หรือ GTA) คือชุดวิดีโอเกม พัฒนาโดยร็อกสตาร์ เกม และผลิตโดยร็อกสตาร์ นอร์ธ เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 เกมชุดดังกล่าวประกอบด้วยเกมภาคหลัก 10 เกมและภาคเสริม 4 เกม เกมชุดแกรนด์เธฟต์ออโตเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่เกมแกรนด์เธฟต์ออโต 3(Grand Theft Auto III) เป็นต้นมา ทุกเกมล้วนเป็นเกมยอดนิยมและเป็นที่กล่าวขวัญ เกมชุดนี้ได้รางวัลมาหลายรางวัล และเกมในชุดนี้มักได้ตำแหน่งเกมแห่งปีจากหลายสถาบันนักวิจารณ์เกม และทำให้เกมนี้มีดาราฮอลลีวูดหลายคนเข้ามาร่วมให้เสียงในเกม เช่นซามูเอล แอล. แจ็กสันเบิร์ต เรย์โนลส์ เป็นต้น

อ้างอิง:https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%95

กลับHome page

Movie

Netflix เป็นแอปดูหนังที่ดีมากฟแอปนึงเลยทีเดียวทำให้เราได้ฝึกภาษาต่างๆด้วยเช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี และอีกมากมายจากหนังในNetflixนี้ แต่แอปนี้ต้องเสียค่าสมัครแต่ก็ยังแนะนำให้โหลดและลองสมัครมาดูกันมีหนังทุกแยวเป็นที่สนุกทุกเรื่อง ภาพชัด ซับแปลได้ดีมากๆ

กลับHome page

เล่นกล้าม


หลายคนอาจเคยประสบปัญหาที่ว่า เล่นกล้าม มาตั้งนานแล้วทำไมกล้ามถึงไม่โตขึ้นสักที? ที่เป็นแบบนั้นอาจเพราะเกิดจาดหลายปัจจัยเป็นตัวประกอบ ทั้งการกินอาหารที่มีประโยชน์ในแต่ละมื้อ การพักผ่อนของร่างกายในแต่ละวัน และยังรวมถึงท่าทางของการเล่นเวทอีกด้วย การยกให้ถูกท่าถูกวิธีนั้นก็ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากๆ เช่นกัน หากเอาแต่ยกแบบผิดวิธี กล้ามที่คุณใฝ่ฝันเอาไว้ก็คงจะไม่มาหาคุณเป็นแน่ ในวันนี้ MOVER จึงจะมาพูดถึงการเล่นกล้ามเล่นเวทยังไงที่เรียกว่าถูกต้องถูกจุด ทำให้เห็นผลรวดเร็วและยั่งยืน


#1 | กำหนดจุดที่ต้องการ

ก่อนที่เราจะลงมือเล่นกล้ามนั้น เราต้องถามตัวเองก่อนว่า ต้องการให้ส่วนไหนของร่างกายมีกล้ามขึ้นมา รวมทั้งต้องกำหนดด้วยว่ากล้ามที่ต้องการนั้นเป็นแบบไหน จะเน้นกล้ามเนื้อหรือว่าเน้นลีน เพื่อปูทางไปสู่การเลือกแผนในการออกกำลังกายให้เกิดกล้ามนั้นเอง

#2 | เล่นท่าอย่างถูกต้อง

อย่างที่รู้กันว่าในแต่ละท่วงท่าของการฝึกนั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกล้ามเนื้อมัดที่ต้องการถูกฝึกให้ได้รับการฝึกมากที่สุด แต่ถ้าหากว่าเราทำท่าที่ใช้ในการออกกำลังกายหรือท่าที่ฝึกผิดรูปแบบผิดวิธี ก็จะทำให้น้ำหนักที่ต้องฝึกในกล้ามเนื้อจุดนั้นเปลี่ยนไป ทางที่ดีควรจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงวิธีการเน้นกล้ามเนื้อแต่ละส่วนไปจะดีที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นแทนที่จะใช้เวลาในการสร้างกล้ามเนื้อแบบเต็มที่ ก็จะต้องแบ่งเวลาไปซ่อมในส่วนที่ทำพลาดไปอีกอย่างเช่นถ้าเราฝึกด้วยวิธีที่ผิดจากที่ผู้เชี่ยวชสญแนะนำ เช่นห่อไหล่หรือพับศอกผิดจากมุมที่ถูกต้อง ก็จะทำให้น้ำหนักที่ควรกระทำต่อหน้าอกของเรานั้น ตกไปสู่กล้ามเนื้อจุดอื่นๆ แทน ฉะนั้นเองการควบคุมท่าทางการออกกำลังกายให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่ควรต้องศึกษาอย่างแม่นยำก่อน เพื่อที่เราจะสามารถโฟกัสกล้ามเนื้อที่ต้องการจะเล่นได้ถูกจุด

#3 | ใช้หลักการ “เกร็ง หน่วง นำ”

จากคำอธิบายที่ว่าการที่กล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งมีความตึงมากกว่านั้น ก็จะทำให้มีแนวโน้มที่จะรับแรงได้ก่อน เพราะเนื่องจากว่าน้ำหนักนั้นจะส่งผ่านไปสู่กล้ามเนื้อที่ตึงได้ดีกว่า และจากหลักการนี้เองที่ทำให้ผู้ที่ต้องการที่จะฝึกต้นแขนให้ถูก แต่ว่าไปเกร็งตรงช่วงไหล่และตรงช่วงบ่ามากเกินไป ในจังหวะที่เรายกและออกแรงนั้นทำให้กล้ามเนื้อตรงไหล่และบ่ารับน้ำหนักมากกว่าตรงต้นแขนที่เราต้องการจะฝึก โฟกัสจึงไปตกที่ไหล่และบ่ามากกว่าช่วงต้นแขนนั่นเองดังนั้นการใช้หลักการนี้ให้ถูกต้องนั่นก็คือการเพิ่มความตึงและพยายามเกร็งตรงกล้ามเนื้อมัดนั้นก่อนที่เราจะออกแรงจริงๆ และต้องทำการปล่อยกล้ามเนื้ออื่นๆ ให้คลายลงก่อนด้วย เช่นถ้าเราต้องการที่จะเล่นแขน ให้เราเกร็งกล้ามเนื้อตรงมัดแขนของเราก่อนที่เราจะยกเวทจริงๆ เพื่อที่เราจะสามารถโฟกัสกล้ามเนื้อมัดนั้นได้อย่างถูกจุดมากยิ่งขึ้น

#4 | จังหวะที่ใช้ในการเล่น

จังหวะในที่นี้หมายถึงจังหวะของการเล่นเวท เพราะจังหวะและความเร็วในการเล่นท่าหรืออุปกรณ์ต่างๆ นั้นก็ส่งผลต่อการโฟกัสกล้ามเนื้อเหมือนกัน ถ้าเราฝึกในจังหวะที่มีความเร็ว ออกแรงแบบระเบิด เราก็จะรู้สึกแค่ช่วงครั้งแรกๆ กับครั้งสุดท้ายเพียงเท่านั้นเอง ส่วนช่วงกลางๆ ของการเล่นนั้นก็คงเหมือนจะหายๆ ไปจากความรู้สึกของเรา ซึ่งวิธีนี้หากผู้ฝึกไม่สามารถที่จะควบคุมกล้ามเนื้อได้ดีจริงๆ การเล่นแบบออกแรงระเบิดก็จะทำให้โฟกัสได้ยากมากยิ่งขึ้นไปอีกดังนั้นเราควรที่จะยกในน้ำหนักที่เหมาะสมกับเราและทำให้จังหวะในการเล่นช้าลง จะช่วยทำให้เราสามารถที่จะโฟกัสกล้ามเนื้อที่ต้องการจะเล่นได้ดีมากยิ่งขึ้น และยังทำให้เราเรียนรู้ท่วงท่าการเล่นท่านั้นๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย

#5 | อาหารเป็นส่วนสำคัญ

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดังนั้นการเล่นกล้ามเองก็เช่นกันการเลือกทานอาหารที่เหมาะกับรูปแบบการเล่นกล้ามนอกจากเสริมพลังและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ออกมาคมสวยแล้ว ยังช่วยให้ร่างการไม่ขาดสารอาหารด้วย เพราะบางคนเลือกที่จะอดแป้ง และทานแต่โปรตีนจากเนื้อสัตว์เท่านั้น ซึ่งเราต้องบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ผิด เนื่องจากร่างกายคนเราต้องการสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ในทุกๆ วัน ดังนั้นการเลือกงดทานแป้งทำให้อาจเกิดอาการโหยแป้งของร่างกายได้ จนนำไปสู่การเกิดโยโย่เอ็ฟเฟ็กต์นั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะบิ้วด์กล้ามให้ดูดี เราไม่แนะนำให้งดอาหารแต่ให้ควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่พอดีกับความต้องการจะดีที่สุด





ว่ายน้ำ

ถือว่าเป็นกีฬาชนิดหนึ่ง มีคนนิยมเล่นและยังมีการจัดแข่งขันทั้ง ระดับชาติ โอลิมปิกหรือตามสถานที่เล็กๆ อีกด้วย การว่ายน้ำดีต่อสุขภาพมาก ช่วยให้กล้ามเนื้อยืดตัวได้ดี คนที่อยากสูงก็สามารถเล่นได้เช่นกัน เพราะกีฬาชนิดนี้ช่วยทำให้เราสูงได้ หากว่ายเป็นประจำ และไม่ควรว่ายตามแม่น้ำหรือคลองเพราะมันมีความอันตราย แนะนำถ้าอยากเล่นจริงๆ ควรหาสระตามฟิตเนส หรือหมู่บ้านดีกว่า หากเรามีวิชาว่ายน้ำติดตัวมันดีต่อตัวเราเองและคนอื่น ซึ่งหากเราพบเห็นคนกำลังจมน้ำเราสามารถช่วยเขาได้ และยังช่วยผ่อนคลายทำให้เราไม่เครียด มีความรู้สึกว่าสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
ท่าในการว่ายน้ำหลักๆมีอยู่ 4 ท่า ดังนี้
ท่าฟรีสไตล์ : เราสามารถว่ายอย่างไรก็ได้ตามสไตล์ของเรา คนส่วนมากมักเล่นท่าฟรีสไตล์คือว่ายแบบ เอามือว่ายไปข้างหน้าสลับกัน ซ้ายขวา
ท่ากบ : คือ ว่ายแบบคว่ำหน้า มือทั้งสองข้างต้องกวาดไปข้างหน้าพร้อมกันและเท้าต้องเตะไปข้างหลัง ข้อศอกต้องอยู่ใต้ผิวน้ำ
ท่ากรรเชียง : ว่ายแบบนอนหงาย แขนทั้งสองข้างสลับกัน ตัวต้องพุ่งไปข้างหน้า
ท่าผีเสื้อ : ว่ายแบบคว่ำหน้า แขนทั้งสองข้างต้องสาวน้ำไปและมือทั้งสองข้างต้องยกเหนือน้ำพร้อมกัน
ทักษะในการเล่น เมื่ออยู่ใต้น้ำ
หายใจ : เป็นเรื่องสำคัญมาก การหายใจในน้ำ หากคุณไม่รู้จักทักษะการหายใจใต้น้ำ ทรงตัวและเคลื่อนไหวตัวใต้น้ำจะเป็นอันตรายต่อร่างกายคุณเป็นอย่างมาก
ควบคุมสติ : เมื่อตัวเราลงน้ำสิ่งแรกที่ควรทำเลยคือตั้งสติ หากคุณไม่มีสติในการว่ายน้ำอาจทำให้คุณเกิดความกลัวและความกังวลและทำให้ขั้นตอนว่ายน้ำนั้นไม่เป็นไปตามขั้นตอน
ห้ามเกร็ง : สิ่งที่ไม่ควรทำเลยคือ เกร็งตัวในน้ำ เพราะมันจะทำให้คุณเป็นตะคิวและจมน้ำได้ ถือว่าอันตรายมาก หากรู้ว่าเมื่อลงน้ำแล้วเกร็งก็ไม่ควรลงเป็นเด็ดขาด
ลอยตัวบนน้ำ : เมื่อเริ่มลงสระควรจะลงไปฝึกลอยตัวบนน้ำเพื่อผ่อนคลาย คลายความเครียดและความกลัว ให้รู้สึกสบายตัว ถึงจะเริ่มทำเป็นท่าได้
วางท่าในน้ำ : เมื่อคุณเริ่มว่ายน้ำ ก็ควรจะตั้งหลักการวางท่าใต้น้ำให้ดีเสียก่อน อย่าเกร็ง ค่อยๆทำ เมื่อจัดท่าในน้ำเสร็จแล้วก็ลองเริ่มเตะขาใต้น้ำเพื่อไม่ให้ตัวจม